Last updated: 26 มิ.ย. 2564 | 11349 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับชาวสายเนื้อแล้ว คงไม่มีอะไรที่มีความสุขมากไปกว่าการได้ทานเนื้อวัวที่มีรสสัมผัสนุ่ม รสชาติหอมอร่อย! ซึ่งถ้าพูดถึงเนื้อที่อร่อยติดอันดับโลกจากถิ่นชื่อดังก็คงไม่พันเนื้อออสเตรเลียและเนื้อนิวซีแลนด์
ซึ่งหลายคนคงมีคำถามหรือข้อสงสัยว่าเนื้อนิวซีแลนด์และเนื้อออสเตรเลียต่างกันยังไง? วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัย พร้อมอธิบายรายละเอียดของเนื้อทั้ง 2 ประเทศนี้กัน
เนื้อวัวออสเตรเลีย (Australian Beef)
เนื้อวัวชื่อดังที่ใครๆ ก็คงทราบกันดีถึงคุณภาพของเนื้อ รวมไปถึงเป็นเนื้อวัวที่ได้รับการยอมรับในหมู่สายเนื้อ รวมไปถึงเหล่าเชฟคนทำอาหาร ไปจนถึงเชฟมิชลินและเหล่าบรรดานักชิมทั่วโลก ในเรื่องคุณภาพและรสชาติที่อร่อยติดอันดับโลก! (คนรักเนื้อต้องลิ้มลองเลย)
เจ้าเนื้อวัวออสเตรเลีย นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของรสสัมผัสความนุ่ม รวมไปถึงกลิ่นหอมเนื้อเฉพาะตัวที่ทำให้คนที่ได้ทานต้องติดใจแน่นอน โดยเนื้อชนิดนี้นั้นมีการเลี้ยงดู 2 แบบ นั่นก็คือ
1. วัวกินหญ้า (Grass Fed)
วัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าตามธรรมชาติ หรือเลี้ยงแบบระบบเปิด โดยวัวจะถูกปล่อยให้กินหญ้าในทุ่งกว้าง ซึ่งทำให้ได้เดินออกกำลังกายจึงจะทำให้มีไขมันแทรกน้อย โดยไขมันที่ได้จะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ดีต่อสุขภาพ
2. วัวกินธัญพืช (Grain Fed)
วัวที่เลี้ยงด้วยระบบปิด หรือเลี้ยงอยู่ในคอกธัญพืช โดยอาหารส่วนใหญ่จะได้รับเป็นข้าวโพด และถั่วเหลืองบ้างเพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงและได้สารอาหารที่สมดุล ทำให้วัวมีระดับไขมันแทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อเหมือนลายหินอ่อน ที่เรียกกันว่า Marbling Score
*สำหรับใครที่สนใจเพิ่มเติมอ่านข้อมูลการเลี้ยงทั้ง 2 แบบในลิ้งนี้ได้เลย คลิก
เนื้อวัวนิวซีแลนด์ (New Zealand Beef)
ประเทศนิวซีแลนด์ มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นผืนหญ้าขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์สูง รวมทั้งมีภูมิอากาศที่เหมาะในการเลี้ยงวัวมากๆ ทำให้เนื้อวัวที่ได้เลยมีคุณภาพสูง เนื่องจากได้ทานหญ้าที่มีคุณภาพและสารอาหารครบถ้วน รวมไปถึงการเลี้ยงดูที่เน้นแบบระบบเปิด ทำให้ตัวเนื้อวัวมีจุดเด่นที่รสสัมผัสความนุ่มพิเศษ พร้อมรสชาติหอมละมุนแบบเฉพาะตัว จึงเป็นเนื้อวัวประเทศหนึ่งที่สายเนื้อห้ามพลาดเลย!
ในด้านของมาตรฐานของฟาร์มวัวในประเทศนิวซีแลนด์ก็เป็น 1 ในประเทศที่มีการตรวจขันเรื่องอาหารของสัตว์ในฟาร์มมากที่สุดของโลก โดยมีการเลี้ยงที่เข้มงวดมาก ทั้งเรื่องการควบคุมอาหารที่จะต้องไม่เติมแต่ง รวมไปถึงฉีดลายมันและฮอร์โมน (พูดง่ายๆ เลยว่าเป็นวัวปลอดสารนั่นเอง) จุดนี้จึงการันตีได้เลยว่าเนื้อวัวนิวซีแลนด์ที่ได้มีความ Organic สุดๆ รวมไปถึงการการันตีเรื่องความมีคุณภาพแน่นอน ตัวเนื้อวัวที่ได้ออกมาจึงมีสารอาหารที่สูงมากๆ อีกด้วย
ความแตกต่างของเนื้อวัวออสเตรเลีย-เนื้อวัวนิวซีแลนด์
เนื้อวัวของทั้ง 2 ประเทศ ถ้าพูดถึงคุณภาพของเนื้อและรสชาติมีความใกล้เคียงกันมากๆ เพราะมีที่ตั้งภูมิอากาศ ซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันเป๊ะๆ เลยซะทีเดียว ถึงแม้ว่ารสสัมผัสความนุ่มพิเศษนั้นจะไม่ต่างกันมาก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องรสชาติแล้วก็จะไม่เหมือนกันสักทีเดียว เพราะถ้าเทียบกันแล้วเนื้อวัวออสเตรเลียจะมีรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นเนื้อที่สูงกว่า ส่วนเนื้อวัวนิวซีแลนด์นั้นจะออกไปทางรสชาตินุ่มละมุนลิ้นมากกว่า
1. ด้านรสชาติ-รสสัมผัส
ถ้าในเรื่องของรสสัมผัสความนุ่มนั้นไม่ต่างกัน เพราะมีความนุ่มพิเศษทั้งคู่อยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องรสชาติถ้าเทียบกันแล้วเนื้อวัวออสเตรเลียจะมีรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นเนื้อที่สูงกว่าถ้าสำหรับใครที่ชอบรับรองติดใจแน่นอน แต่สำหรับเนื้อวัวนิวซีแลนด์นั้นในได้รสชาติจะออกไปทางนุ่มละมุนลิ้นมากกว่า
2. ราคาของเนื้อ
ถ้าเทียบกันแล้วถึงแม้ว่าราคาของเนื้อทั้ง 2 ประเทศจะมีความใกล้เคียงกัน แต่ว่าราคาของเนื้อวัวจากออสเตรเลีย ภาษี 55% แต่เนื้อวัวจากนิวซีแลนด์ ภาษี 5% ถ้าลองคิดดูแล้วในความเป็นจริงราคาของเนื้อวัวนิวซีแลนด์จะมีราคาที่สูงกว่าเนื้อออสเตรเลีย
3. คุณประโยชน์ของเนื้อ
ที่ตั้งของทั้ง 2 ประเทศถึงจะอยู่ใกล้เคียงกัน รวมไปถึงภูมิอากาศที่ใกล้กัน แต่ความอุดมสมบูรณ์ของทุ่งหญ้าที่นิวซีแลนด์จะมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า ส่วนออสเตรเลียพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและมีอากาศร้อนซะเยอะ เนื้อวัวของที่นิวซีแลนด์หลายคนจึงเชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพมากกว่า
สรุปเนื้อวัวออสเตรเลียและเนื้อวัวนิวซีแลนด์
ถ้าพูดถึงว่าเนื้อตัวไหนดีกว่ากัน สำหรับทางเรามองว่าขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้าซะมากกว่า เพราะถ้าพูดถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ทั้งในด้านรสชาติและรสสัมผัสที่มีความคล้ายคลึงกัน รวมไปถึงคุณภาพที่ได้ก็ดีเลิศอยู่แล้ว ส่วนตัวแนะนำอยากให้ชาว Beef Brother ได้ลิ้มลองเนื้อจากทั้ง 2 ประเทศนี้ก่อน
สำหรับใครที่สนใจเนื้อวัวออสเตรเลีย หรือ เนื้อวัวนิวซีแลนด์ ก็สามารถสั่งซื้อเนื้อวัวที่ทางเราได้คัดสรรในราคาปลีก-ส่ง ฉันท์พี่น้อง จากทาง Beef Brother ได้เลยนะคะ การันตีคุณภาพแน่นอนพร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศถึงมือลูกค้าให้ได้ลิ้มลองกันที่บ้านได้เลยยย!